เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2565 EduGuide 4.0 รายงานว่า นายธนชน มุทาพร ที่ปรึกษาชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชมรม ผอ.สพท.) และแกนนำเครือข่ายองค์กรวิชาชีพครูไทย (ค.อ.ท.) ได้แชร์โพสต์ข้อความเรียกร้องให้สนับสนุนและช่วยกันส่งต่อข้อเสนอในการแก้ไขปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ...ฉบับของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะทำงานพิจารณากฎหมายลำดับรองที่สอดคล้องกับร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ 

ซึ่งเป็นข้อเสนอจากผลสรุปของการเสวนาร่วมชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย สมาคมนักบริหารการศึกษาขั้นพื้นฐานแห่งประเทศไทย เครือข่ายผู้ประกอบวิชาชีพครูไทย ( ค.อ.ท.) และสมาพันธ์ผู้ประกอบวิชาชีพครูไทย ( ส.อ.ท.) โดยเฉพาะข้อเสนอควรเพิ่มเติมมาตรา ๖๗/๑ ดังนี้

"ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่มีวิทยฐานะใด และไม่ได้ขอเลื่อนให้มีวิทยฐานะสูงขึ้น มีผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นที่ประจักษ์หรือรับราชการและดำรงตำแหน่งวิทยฐานะดังกล่าวเป็นเวลานานเกิน 10 ปี และไม่เคยเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อตนเองและต่อราชการ อาจได้รับการแต่งตั้งให้มีวิทยฐานะสูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง 


ทั้งนี้ ให้ผู้มีอำนาจในการสั่งบรรจุและแต่งตั้ง พิจารณาผลที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนเป็นสำคัญ รวมถึงการรักษาวินัย จรรยาบรรณ คุณธรรม จริยธรรม และผลที่เกิดกับทาง

ราชการ 


หลักเกณฑ์และวิธีการให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎคณะกรรมการข้าราชการครและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.)


ในกฎ ก.ค.ศ.ตามมาตรา ๖๗/๑ วรรคสาม ให้กำหนดคุณสมบัติอย่างน้อย ดังนี้ (๑) ดำรงตำแหน่งวิทยฐานะเดิมเกิน 10 ปีขึ้นไป ให้หน่วยงานสำรวจแล้วเสนอชื่อบุคคลที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ 


(๒) รับราชการครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 25 ปี และเมื่อมีอายุ 58 ปีบริบูรณ์ หรือกรณีอายุเกินกว่า 58 ปี และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งวิทยฐานะที่สูงขึ้น แล้วมีเหตุเกษียณอายุราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญ ให้สั่งผู้นั้นมีวิทยฐานะที่สูงขึ้นด้วยอีกระดับหนึ่ง  


(๓) เคยขอเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นแต่ไม่ผ่านการประเมิน หรือไม่เคยขอเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้น แต่มีผลงานเป็นประจักษ์ต่อผู้เรียนและราชการในระดับ

ดีเด่น ตามที่ ก.ค.ศ.กำหนด"


นายธนชนให้เหตุผลในการเสนอให้มีสาระบัญญัติดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการและเหตุผลของ ร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติที่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชั้นสูง มีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีความรู้ ความสามารถอย่างแท้จริง จึงให้ได้รับค่าตอบแทนที่เหมาะสมกับความสามารถและประสิทธิภาพในการสอน จนมีผลงานเป็นประจักษ์ และสอดคล้องกับมาตรา ๑๔ (๑๐) การเลื่อนวิทยฐานะหรือเลื่อนตำแหน่งของครู ให้พิจารณาจากผลการปฏิบัติงานที่สะท้อนพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา ๖ และเป้าหมายตามมาตรา ๘ และความสามารถในความเป็นครู


ประกอบกับเพื่อเป็นหลักประกันโอกาสความก้าวหน้าในผู้ประกอบวิชาชีพครู ถึงแม้จะไม่ได้ขอเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น หรือขอเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้นแต่ไม่ผ่านการประเมิน เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพครูมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์นี้ ผู้บังคับบัญชาสามารถพิจารณาให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูที่มีคุณสมบัติเลื่อนวิทยฐานะให้สูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ รวมทั้งเพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับผู้ประกอบวิชาชีพครูที่รับราชการนาน และมีผลงานเป็นประจักษ์ได้เลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้นอีกหนึ่งระดับ 


ซึ่งสอดคล้องกับ พ.ร.บ.ตำรวจที่ให้ข้าราชการตำรวจยศชั้นประทวนที่ประกอบคุณงามความดีมาเป็นระยะเวลานาน เมื่อมีอายุตัวย่างเข้า ๕๓ ปี และคุณสมบัติอื่นๆ ก็จะได้รับการพิจารณาเลื่อนชั้นยศเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร


"ข้อเสนอข้อนี้น่าสนใจมาก เพราะจะทำให้ได้ครูที่ทุ่มเทให้กับเด็กจนมีผลงานเชิงประจักษ์ ไม่ต้องสร้างเอกสารหลักฐานมากมายจนทำให้ครูต้องละทิ้งห้องเรียน และจะเป็นตัวช่วยทำให้ครูได้มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญมากขึ้น ซึ่งเป็นหลักคิดที่เทียบเคียงกับกฎหมายตำรวจ ที่ตำรวจชั้นประทวนเมื่อถึงอายุตัวและอายุราชการตามกำหนด ก็จะประเมินแต่งตั้งให้เป็นนายตำรวจทันที ติดยศร้อยตำรวจตรีก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนั้น อยากให้ช่วยกันเชียร์ด้วยนะครับในข้อเสนอนี้" แกนนำ ค.อ.ท.กล่าว


0

เพิ่มความคิดเห็น

กำลังโหลด